ขนม Thai บัวลอยไข่หวาน
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักขนมไทยกันค่ะ
www.thaipbs.or.thขนมไทยนั้นมีมานานแล้วตั้งแต่ประเทศไทยยังเป็นสยามประเทศ ซึ่งสมัยนั้นได้ติดต่อ ค้าขายกับต่างชาติ โดยมีการแลกเปลี่ยนติดต่อกันทั้งทางด้านสินค้าและวัฒนธรรม ขนมไทยในยุคแรกๆ เป็นเพียงนำข้าวไปตำหรือโม่ให้ได้แป้ง และนำไปผสมกับน้ำตาล หรือมะพร้าว เพื่อทำเป็นขนม แต่หลังจากการติดต่อค้าขายกับต่างชาติ วัฒนธรรมด้านอาหารของต่างชาติก็เข้ามามีอิทธิพลกับอาหารไทยมากขึ้น ขนมก็ด้วยเช่นกัน ขนมไทย จึงมีความหลากหลายมากขึ้น จนปัจจุบันยังยากที่จะแยกออกว่า ขนมใดคือขนมไทยแท้ แต่ขนมไทยก็ยังได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
มาอ่านประวัติของขนมบัวลอยกันค่ะ
ขนมบัวลอยเป็นขนมไทยพื้นบ้านของชาวไทย ที่รู้จักกันทั่วทุกภูมิภาค แต่ละพื้นที่จะมีสูตรและเคล็ดลับที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะขนมบัวลอย สูตรของนางกวยอัตจักร์ซึ่งเป็นชาวอีสานและมีภูมิลำเนาเป็นคนบ้านโนนศิลา อำเภอโนนศิลาโดยกำเนิด ได้รู้จักวิธีการทำขนมบัวลอยมาเมื่อครั้งยังเป็นสาว โดยได้เรียนรู้จากแม่ และเริ่มปรับปรุงพัฒนารูปแบบ ส่วนผสม ตลอดจนการรู้จักดัดแปลงหรือนำเอาวัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาเป็นส่วนผสม เช่น ใบเตย ดอกกุหลาบ หรือดอกอัญชัน มาคั้นเอาน้ำไปผสมกับแป้งเพื่อให้ได้สีสันที่สวยงาม น่ารับประทาน จากที่เคยทำขนมบัวลอยเพื่อไว้รับประทานกันเองภายในครอบครัว หรือแบ่งไปทำบุญที่วัดในอดีต ก็ได้พัฒนาฝีมือขึ้นมาเพื่อขายให้ผู้คนในหมู่บ้านหรือหมู่บ้านใกล้เคียง และนำไปขายควบคู่กับอาหารพื้นบ้านที่ตัวเองทำขายอยู่เป็นประจำ ทำให้มีรายได้จากการค้าขายเพิ่มขึ้นซึ่งนางกวย ได้มองเห็นโอกาสที่ว่าในปัจจุบันไม่ค่อยมีคนทำขนมบัวลอยรับประทานกันเนื่องจากเห็นว่ามีขั้นตอนที่ยุ่งยาก เสียเวลา และสามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด จึงทำขนมบัวลอยไว้จำหน่ายให้บุคคลภายในหมู่บ้านตลอดจนผู้คนที่มาติดต่อราชการ ณ ที่ว่าการอำเภอโนนศิลา ซึ่งนางกวยตั้งใจที่จะทำขนมบัวลอยขายคู่กับอาหารพื้นบ้านให้คนพื้นบ้านอีสานและโดยเฉพาะชาวอำเภอโนนศิลาได้รับประทานตลอดไป เพื่อเป็นการรักษาสืบทอดการทำขนมบัวลอยคงไว้ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ อนุรักษ์สืบสานต่อไป ทั้งนี้นางกวย กล่าวว่ายินดีที่จะให้คำแนะนำ วิธีการทำในทุกขั้นตอนแก่ผู้สนใจโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
มาดูเครื่องปรุงและส่วนผสมในการทำบัวลอยกันค่ะ

จากภาพเป็นส่วนผสมที่ดิฉันใช้ทำบัวลอยไข่หวานค่ะ
ก็จะมี
- จากที่ทำในครั้งนี้จะเป็นการใช้แป้งสำเร็จรูปค่ะ จำนวนที่ใช้ 1 ถุง
- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
- จากที่ทำในครั้งนี้จะเป็นการใช้กระทิสำเร็จรูป จำนวนที่ใช้กำทิ 1 กล่อง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- ไข่
ส่วนอันนี้เป็นส่วนผสมที่นิยมใช้กันค่ะ
- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
- จากที่ทำในครั้งนี้จะเป็นการใช้กระทิสำเร็จรูป จำนวนที่ใช้กำทิ 1 กล่อง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- ไข่
ส่วนอันนี้เป็นส่วนผสมที่นิยมใช้กันค่ะ
* แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วยตวง (ถ้าใครไม่สะดวกก็มีแบบสำเร็จรูปค่ะ)
ต่อด้วยส่วนผสมน้ำกะทิ+
จากที่ทำในครั้งนี้จะเป็นการใช้กระทิสำเร็จรูป จำนวนที่ใช้กำทิ 1 กล่อง
แล้วแต่บุคคลจะใช้ ค่ะ แต่ดิฉันไม่ได้ใช้ค่ะ
* เกลือป่น 1 ช้อนชา
ตามความชอบของแต่ละคน
ตามความชอบของแต่ละคน
มาถึงขั้นตอนการทำบัวลอยกันค่ะ
1. ทำบัวลอยโดยผสมแป้งข้าวเหนียว, เผือกนึ่งและน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน นวดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงนำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ ระหว่างปั้นนั้น ควรโรยด้วยเศษแป้งข้าวเหนียวเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกบัวลอยติดกัน (ถ้าต้องการทำบัวลอยหลายสีก็ใช้ส่วนผสมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นฟักทองสำหรับสีเหลือง หรือใบเตยสำหรับสีเขียว เป็นต้น)
**กรณีเป็นบัวลอยสำเร็จรูปให้ทำตามข้อ 2 เลยค่ะ
จากตัวอย่างที่ดิฉันได้ทำนะคะจะเป็นการใช้แป้งที่สำเร็จรูปค่ะ
จากตัวอย่างที่ดิฉันได้ทำนะคะจะเป็นการใช้แป้งที่สำเร็จรูปค่ะ
จากภาพนะคะ อันนี้แป้งสุกแล้วนะคะ ดูไม่ยากถ้าแป้งสุกจะลอยขึ้นเหมือนดังภาพค่ะ
ลองทำดูนะคะไม่ยาก
2. ต้มน้ำในหม้อขนาดกลาง รอจนเดือดจึงใส่ลูกบัวลอยที่ปั้นไว้แล้ว เมื่อบัวลอยสุกให้นำออกมาแช่ในน้ำเย็น (บัวลอยที่สุกแล้วจะลอยขึ้น)
3. ทำน้ำกะทิโดยผสม กะทิ, น้ำตาลมะพร้าว, น้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไป ควรใส่น้ำตาลทรายแค่ครึ่งเดียวก่อน ถ้ายังหวานไม่พอจึงค่อยใส่เพิ่มลงไป ต้มจนเดือด จึงหรี่ไฟลง นำบัวลอยที่ต้มไว้แล้วใส่ลงไปในน้ำกะทิ ต้มต่ออีกสักพักจึงปิดไฟ ถ้ามีมะพร้าวอ่อนก็ใส่ได้เลย พร้อมลูกบัวลอย (กรณีต้องการทำบัวลอยไข่หวาน ก็ตอกไข่ใส่ไปในหม้อหลังจากที่ใส่บัวลอยลงไป รอจนไข่สุกจึงปิดไฟ)
เสร็จแล้วค่ะ เห็นมั้ยทำไม่ยากเลย
4. ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยงาขาว(เพื่อความสวยงาม)
น่ากินมั้ยคะ
การทำขนมบัวลอยไข่หวานนี้ เป็นวิธีที่ใครๆก็ทำได้ ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก อุปกรณ์ก็หาง่ายค่ะ ก็อยากให้ลองทำตามกันดูนะคะ เป็นขนมไทยที่มีรสชาติอร่อย หอม หวาน น่าทาน เป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน แต่จะมีการทำที่ค่อนข้างแตกต่างกันออกไปค่ะ แต่วิธีการทำดั่งตัวอย่างข้างบนนี้ จะเป็นวิธีทำที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว เหมาะสำหรับบุคคลที่อยากลองทำหรือเพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก ก็สามารถทำตามขั้นตอนตัวอย่างข้างบนได้เลยค่ะ
คำถามที่ว่าทานขนมบัวลอยแล้วอ้วนไหม?
ในการทานขนมบัวลอยในแต่ละวันถ้าเราทานในปริมาณที่ปกติ คือ ทาน ขนมบัวลอย 1 จานเล็ก (100 กรัม) แคลลอรี่ จำนวนแคลอรี่ที่มีทั้งหมด คือ 211 แคลอรี่ ถ้าทานตามปกติไม่มากเกินไปก็ไม่ถือว่า อ้วน ค่ะ
(ข้อมูลเพิ่มเติม อยากทราบจำนวนแคลอรี่ในอาหารประเภทต่างๆ ได้ที่เว็บข้างล่างนี้ค่ะ)
http://kvamsook.com/tag/ *ขออนุญาติเจ้าของเว็บไซต์นะคะ
ปัญหาในการทำครั้งนี้ค่ะ
โดยรวมแล้วไม่มีปัญหาอะไรนะคะ เพราะมีวิธีทำที่ค่อนค่อนข้างง่าย อุปกรณ์ก็หาได้สะดวกและใช้เวลาทำค่อนข้างรวดเร็ว ถ้าจะมีปัญหาจริงๆ ก็คงจะเป็นเรื่องความอร่อยเนี่ยแหละค่ะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับชอบของแต่ละบุคคลค่ะ ว่าชอบ เค็ม หรือ หวาน ก็ปรุงรสได้ตามความต้องการค่ะ
จากใจผู้สร้างบล็อกค่ะ
ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมบล็อก ขนม Thai บัวลอยไข่หวาน นะคะ ดิฉันหวังว่าการทำบล็อกของดิฉันครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เข้ามาชมนะคะ
เห็นแล้วก็โอเคและสวยงามมาก
ตอบลบน่ากินจริงๆด้วย ผมลองทำดูแล้ว อร่อยมากๆเลยครับ ขอบคุณครับ
ตอบลบทำได้น่ากินมาก เดี๋ยววันหลังลองทำกินบ้างดีกว่า
ตอบลบเราก็เคยทำกินเองเหมือนกัน ไม่ยากเลย อุปกรณ์ก็หาง่าย ทำเองได้เยอะกว่าด้วย
ตอบลบน่าทานมากเลย จะนำความรู้ที่ได้ไปลองทำดู ขอบคุณมากค่ะ
ตอบลบน่าทานมากๆ ปกติชอบทานขนมหวานอยู่แล้วด้วยสงสัยต้องทำทานสะหน่อยแล้ว มีสูตรทำบัวลอยน่ากินขนาดนี้ ไม่พลาดแน่ๆ ขอบคุณเจ้าของบล๊อคที่ทำให้ดูนะจ้ะ ^^
ตอบลบปกติเป็นชอบทานขนมหวานอยู่แล้วพอเห็นขนมบัวลอยก็หิวขึ้นมาทันทีเลย ได้สูตรพอดีเลย ขอบคุณนะค่ะ
ตอบลบปกติชอบทานขนมหวานอยู่แล้ว แต่เดี๋ยวจะลองทำทานดู
ตอบลบน่ากินมากๆเลยค่ะจะลองทำตามดูนะค่ะ วิธีการทำก็ง่ายอีกด้วย
ตอบลบสูตรนี้น่าทานมากๆเลย ต้องลองเอาไปทำบ้างแล้วล่ะ ^^
ตอบลบน่าทานมากครับ ต้องเอาไปศึกษาดูซะแล้วละครับ
ตอบลบน่าทานมากๆเลย ต้องลองกลับไปทำดูบ้างแล้วค่ะ ทำไม่ยากอุปกรณ์หาง่ายทำเองได้ที่บ้านขอบคุณนะค่ะ
ตอบลบน่าทานมากๆ จะลองทำทานดูนะค่ะ
ตอบลบน่ากินจัง ว่าแต่นอกจากปั้นเป็นลูกกลมๆแล้วเราจะปั้นเป็นรูปอื่นๆได้ไหมแล้วต้องเพิ่มเวลาการต้มด้วยรึเปล่า
ตอบลบสามารถปั้นเป็นรูปอย่างอื่นได้ค่ะ ส่วนเวลาการปั้นอยู่ที่จำนวนป้งที่เราปั้นค่ะถ้าปั้นรูปที่ใช้จำนวนแป้งมากก็ต้องเพิ่มเวลานิดหน่อย (แต่ดูไม่อยากนะถ้าแป้งสุกก็จะลอยขึ้นมาเองค่ะ)
ลบน่ากินมากกกกคับบบบ
ตอบลบวิธีทำก็ง่าย ต้องเอาไปลองทำบ้างสะแล้วววววววว
ดูแล้วน่าทานมากๆเลยค่ะ วิธีทำก็ดูไม่ยาก และอีกอย่างขอบคุณที่เอาเกร็ดความรู้ว่าทานเท่ารัยถึงจะไม่อ้วน ^^
ตอบลบชอบทานบัวลอยมากๆเลยค่ะ อีกอย่างที่ชอบเพราะขนมไทยก็อร่อยไม่แพ้ที่อื่น
ตอบลบ